มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้าอุตสาหกรรม ครบวงจร &&

[www.SeoNo1.co.th]

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ผู้ที่มีความชำนาญด้านสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องใช้ไม้สอยส่งกำลัง อะไหล่เครื่องจักร ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานอุตสาหกรรมด้านที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเยอะแยะ พร้อมบริการให้คำแนะนำแล้วก็จัดส่งทั้งประเทศ



เป็นมอเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใช้กับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ การใช้แรงงานเบื้องต้นเป็นเปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เปลี่ยนเป็นพลังงานมายากล ส่วนที่ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นขดลวดในสเตเตอร์ เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าก็จะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้น แล้วก็จะไปกระตุ้นให้เกิดการเหนี่ยวนำของกระแสไฟขึ้นในขดลวดของโรเตอร์ หรือ เรียกว่าตัวหมุน ซึ่งเป็นส่วนที่ปฏิบัติภารกิจให้พลังงานมายากลนั่นเอง จึงทำให้มีการเรียก  มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ว่ามอเตอร์เหนี่ยวนำ

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกเป็น

1. มอเตอร์ไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับแบบอินดักชั่น หรือ เหนี่ยวนำ– จะมีความเร็วพร้อมรอบคงที่ เนื่องมาจากขึ้นอยู่กับความถี่ของต้นกำเนิดไฟฟ้า โครงสร้างไม่ค่อยสลับซับซ้อน ราคาถูก ทำนุบำรุงง่ายเนื่องจากไม่มีคอมมิวเตเตอร์กับแปรงถ่านเสมือนมอเตอร์กระแสไฟตรง เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องควบคุมความเร็วอินเวอร์เตอร์ก็จะสามารถคุมความเร็วได้ตั้งแต่0 ถึง ความเร็วสูงสุดของมอเตอร์
ข้างในประกอบไปด้วยโรเตอร์, ขดลวดสนามไฟฟ้า, โครงมอเตอร์, ขั้วต่อสาย, ฝาครอบหัว, ฝาครอบท้าย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทสำคัญๆอาทิเช่น อินดิกชั่นมอเตอร์แบบทรงกระรอกกับอินดิกชั่นมอเตอร์แบบขดลวด การใช้แรงงานขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเครื่องจักร

2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ แบบซิงโครนัส– จะเป็นมอเตอร์ขนาดใหญ่ขนาดพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ 150 KW ไปจนกระทั่ง 15 MW ระดับความเร็วตั้งแต่ 150 – 1,800 RPM มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ

- สเตเตอร์ (Stator) จะเป็นราวแบบอินดักชั่น มีร่องพันขดลวด 3 ชุด เฟสละ 1 ชุด พอเพียงจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสให้สเตเตอร์จะเกิดสนามแม่เหล็กหมุนขึ้นมา
- โรเตอร์ (Rotor) ลักษณะเป็นขั้วแม่เหล็กยื่น ขดลวดพันข้างๆขั้วแม่เหล็กที่ยื่นออกมาโดยจะพันยื่นต่อกับแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไฟฟ้ากระแสตรงด้านนอกไม่ก็สร้างขั้วแม่เหล็กตรงโรเจอร์ เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟมายังสเตเตอร์จะเกิดเป็นสนามไฟฟ้าหมุนความเร็วพอๆกับความเร็วของสนามแม่เหล็กตรงสเตเตอร์นั่นเอง

ไฟฟ้า 3 เฟสเป็นยังไง?

กระแสไฟฟ้า 1 เฟส คือ กระแสไฟฟ้าที่ใช้กับ หลอดไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน จะเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ ระบบ 1 เฟส 2 สาย ชี้แจงกล้วยๆคือสายไฟฟ้าเข้า 2 เส้น จะมีสายที่มีไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า "สายไลน์" จำนวน 1 เส้น แล้วก็สายที่เดินไว้เฉยๆไม่มีไฟฟ้าไหล เรียกกว่า "สายนิวตรอน" จำนวน 1 เส้น ทดลองได้จากปลั๊กไฟตามบ้านแบบ 2 ช่อง ลองนำไขควงวัดไฟวัดที่รูทิ่ม จะมันช่องหนึ่งที่มีกระแสไฟ และอีกช่องไม่มีกระแสไฟ แนวทางการทำอย่างนี้เพื่อกระแสไฟฟ้านั้นไหลครบวงจร ส่วนปลั๊กไฟที่มี 3 ช่อง จะมีช่องสายกราวเกรียวด์ เพิ่มเข้ามาอีก 1 ช่อง เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน ถ้ากำเนิดไฟฟ้ารั่วซึ่งระบบกระแสไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย จะหรูหราแรงกดดันไฟฟ้าที่ใช้งานจะอยู่ที่ 230-250 V มีความถี่ 50 Hz

กระแสไฟฟ้า 3 เฟสเป็นระบบไฟฟ้าระบบ 3 เฟส 4 สาย ชี้แจงกล้วยๆเป็น สายไฟฟ้าเข้า 4 เส้น จะมีสายที่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า "สายไลน์" มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ จำนวน 3 เส้น แล้วก็สายที่เดินไว้เฉยๆไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล เรียกว่า "สายนิวตรอน" จำนวน 1 เส้น ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้งาน ถ้าวัดแรงดันระหว่างสายไลน์กับสายไลน์ แรงดันจะอยู่ที่ 380-400 V แต่ถ้าวัดระหว่างสายไลน์กับสายนิวตรอน แรงดันจะอยู่ที่ 230-250 V ความถี่ 50 Hz ซึ่งระบบ 3 เฟส 4 สายนั้น จะใช้กับเครื่องจักรต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนมาก เนื่องจากเครื่องจักรมีขนาดใหญ่ ก็เลยปรารถนาแรงกดดันไฟฟ้าสูง ไฟฟ้าระบบนี้ไม่อาจจะประยุกต์ใช้กับระบบแสงไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้โดยตรง

หลายคนอาจจะสงสัยว่าระบบกระแสไฟฟ้า 3 เฟส ไม่สามารถที่จะใช้กับเครื่องมือในบ้านได้ แล้วนำมาชี้แนะเพื่ออะไร ข้อสงสัยนี้ชี้แจงได้ง่ายๆ พูดอีกนัยหนึ่ง ระบบกระแสไฟฟ้า 3 เฟสที่จะนำมาใช้ในบ้านนั้น มิได้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเดียวทั้งหมดโดยตรง แต่ว่าเราจะแบ่งกระแสไฟฟ้า 3 เฟส ออกเป็น ไฟฟ้า 1 เฟส จำนวน 3 ชุด แล้วกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆที่เครื่องใช้ไฟฟ้าติดตั้ง แนวทางการทำในรูปแบบนี้ถือได้ว่าเป็นการเฉลี่ยการใช้กระแสไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ทำให้ออมค่าใช้กระแสไฟฟ้าได้

ขอขอบคุณบทความ https://fms.co.th/เกร็ดความรู้เบื้องต้นเ/